วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Week3:すみません!BRKに行きたいんですが…

     สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้กลับมาพร้อมกับタスク3手際のいい説明ค่ะ ถ้าให้อธิบายสิ่งที่ทำจากเนื้อหาในタスクนี้แบบง่าย ๆ คือ "บอกทางคนญี่ปุ่นให้มาตึกBRK" ซึ่งต้องขอบอกไว้แต่แรกเลยว่าเรา...  

"สกิลบอกทางอยู่ระดับติดลบ" 
หน้าตาเราเวลาโดนคนถามทาง ไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไรก็ตาม(;-;)


     รู้สึกเศร้ามากที่สกิลบอกทางแย่ตั้งแต่จำความได้ (แต่อย่างน้อย ๆ คือตัวเองยังไม่ใช่พวกเดินหลงทางน่ะนะ) ถ้าจำเป็นต้องบอกทาง จะบอกแบบโง่มากแบบ "เดินตรงไปเรื่อย ๆ นะคะ อยู่ทางซ้ายมือ"เพราะฉะนั้นพอตอนที่รู้ว่าต้องเขียนบอกทางให้คนญี่ปุ่นมาจากคือลำบากใจ ไม่มั่นใจเลยว่าจะเขียนบอกทางรู้เรื่อง 5555555555

     แต่ไหน ๆ ก็มีโอกาสเขียนแล้วก็ต้องลองซักตั้ง ซึ่งอาจารย์กำหนดให้เขียนบอกทางจาก "BTSช่องนนทรีไปตึกBRK" ก็ลองเขียน ๆ แก้ ๆ มา 2 รอบก็ได้มาประมาณนี้ค่ะ


=+=+=+=+=+=+=+=
チュラ大のBRKへの行き方

 まず、BTS Chong Nonsi(チョンナンシ)のホームに入って、「National Stadium」行きの電車に乗りましょう。Chong Nonsi、Sala Daeng(サラダーン)、Ratchadamri(ラーチャダムリ)Siam(サイアム)の順に各駅に停まるので、三つ目のSiam駅で下車してください。
 次に、2番出口を出て、左方向を見ると、左手に「Center point」というデパートの2階入り口につながるところに出ます。そばに下への階段がありますから、降りてください。ここで注意して欲しいのが、そのまま直進せずに、Uターンしてください。そうしたら、Innisfreeという化粧品を売っている店を左手に見ながら、Watsonというドラックストアの方へ歩いていきましょう。
少し歩いたら、左には廃墟の映画館があります。その映画館の前で、大学生たちが並んでいる行列があります。その行列に並んで、「1 Sala Phra Kieo」と書いてあるピンクのチュラーロンコーン大学の小型シャトルバスが来たら、大学生たちと一緒に乗りましょう。
 しばらく乗った後で、Faculty of Arts」というバスのアナウンスが流れたら、バス停で降りてください。右手に歩いたら、左には真っ白な校舎が見えますその校舎が、BRKです。

=+=+=+=+=+=+=+=


     จริงอยู่ที่นอกจาก "ขึ้นรถป๊อป" จะ "เดิน" เข้าไปได้ด้วย แต่ส่วนตัวคิดว่าบอกทางอย่างใดอย่างหนึ่งน่าจะเข้าใจง่ายกว่า + ปกติเราไม่ได้ใช้BTSในการเดินทางมามหาลัยค่ะ แต่บางทีวันไหนที่เรียนแค่ช่วงบ่ายจะนั่งรถเมล์มาลงBTSสยามแล้วต่อรถป๊อป เลยคิดว่าน่าจะเขียนบอกทางพอไหว แต่ปรากฏว่าก็เขียนได้ผิดแบบกระจุยกระจายอยู่ดีค่ะ 5555 ถ้างั้นมาดูกันทีละจุดกันเลยดีกว่าค่ะ

     จุดแรกที่จะดูกันคือจุดที่เราเปลี่ยนเป็นสีชมพูค่ะ ตรงนี้เป็นจุดที่คนเรียนภาษาญี่ปุ่นชอบประมาทกันคือ "ผิดโครงสร้างประโยค" เพราะตอนต้นประโยคขึ้นเป็นคำนามก็ต้องจบด้วยคำนาม แต่เราดันไปจบคำกริยาเฉยเลย!!

รู้สึกเจ็บใจที่สุดในสามโลก ฮืออออออออออ


     เพราะเรื่องหน้าหลังต้องเป็นคำนามทั้งคู่คือก็อาจารย์ย้ำมาตั้งแต่สมัยเริ่มเขียนซาคุบุง แต่ยังเผลอใช้ผิดประจำก็ถือเป็นนิสัยเสียที่เราแก้ไม่หายซักทีค่ะ กล้าพูดเลยว่าเป็น化石化ที่เรามีปัญหามาหลายปีแล้วค่ะ ฮือ TvT ซึ่งบอกเลยว่าจากการที่อาจารย์ติทักมา ก็ทำให้ตระหนักเรื่อง化石化ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนSLAได้จริง ๆ เราอาจจะไม่สามารถแก้ได้ทันที แต่ก็ทำให้เรารู้ตัวและตระหนักว่า เฮ้ย หลังจากนี้เราต้องระวัง 

     ในส่วนของการแก้ อาจารย์เสนอมาว่าแก้ได้ 2 แบบ คือ1.แก้ให้ทั้งด้านหน้าด้านหลังเป็นคำนามไปเลย 2.แก้ด้านหน้าเป็น ここでด้านหลังคงรูป てください ไว้เหมือนเดิม ซึ่งส่วนตัวอยากแก้นิสัยเสียตัวเอง คงแก้แบบแรกตามที่อาจารย์เสนอแนะมาค่ะ

     จุดต่อมาคือคำว่า廃墟(はいきょ)ค่ะ เราเห็นว่าจนถึงก่อนหน้านี้เขาปล่อยลิโด้ทิ้งไว้โดยไม่ทำอะไรเลยคิดว่าน่าจะใช้คำนี้ได้ค่ะ แต่อาจารย์ทักมาว่าถ้าใช้คำนี้ "เหมือนบ้านโบราณ" จริงอยู่ว่าคำนี้ส่วนมากใช้กับบ้านฟิลคฤหาสน์เก่า ๆ โบราณ ๆ แต่เอ๊ะ เราเคยเห็นคนญี่ปุ่นใช้คำนี้นะ แล้วถ้าใช้คำนี้ใช้กับโรงหนังจะเป็นอิมเมจยังไงกัน? เลยลองเสิร์ชดูก็ค้นพบว่า.......
     ......
     ... 
     . 

 怖っ!ホラー映画によく出てくるところじゃないの!?
(出典:https://www.pinterest.com/pin/832954893552563423/)     
  

     เอ่อ..........ลิโด้น่าจะร้างยังไม่ถึงขั้นเลเวลนี้ ถ้าใช้คำว่า廃墟 อิมเมจน่าจะผิดไปเลย ยิ่งทำให้คนญี่ปุ่นงงกว่าเดิมแน่ ๆ ค่ะ 5555555/ในเลขห้ามีน้ำตาอยู่ ก็ต้องเปลี่ยนคำมาเป็น 空きとなっている ตามที่อาจารย์เสนอแนะมาให้

     ส่วนสีแดงเลือดหมู เป็นจุดที่อาจารย์ทักว่า "ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป" เราเลยต้องกลับมาย้อนมองว่าทำไมอาจารย์ถึงบอกอย่างงั้นค่ะ

     จุดแรกคือ大学生たちが並んでいる行列があります。 ถ้ามานึกดี ๆ คือไม่ได้มีแค่นิสิตจุฬาที่ต่อแถวรอขึ้นรถป๊อป มีทั้งมนุษย์เงินเดือน เด็กม.ปลายต่อแถวเหมือนกันค่ะ เลยคิดว่าถ้าแก้เป็น 大学生や会社員などが並んでいる行列がありますน่าจะช่วยให้คนญี่ปุ่นอิมเมจภาพคนต่อแถวได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม(ซักนิดก็ยังดี 555)

     จุดที่สองคือ Faculty of Arts」というバスのアナウンスが流れたら ...ทุกวันนี้รถป๊อปในจุฬาจะมีเสียงประกาศแน่ ๆ แต่ถ้าคิดถึงกรณีที่ "ระบบในรถเสียแล้วไม่ประกาศออกมา" หรือ "ถ้าคนในรถคุยกันเสียงดังจนคนญี่ปุ่นไม่ได้ยินประกาศ" คนญี่ปุ่นหาจุดลงไม่ได้แน่ ๆ เผลอ ๆ หลงกว่าเดิมอีก (ทำไมอุปสรรคการบอกทางมันเยอะแบบนี้ TvT) แล้วนึกถึงในคาบที่อาจารย์บอกว่าควรมีบอก "จุดสังเกต" ก่อนลงน่าจะเข้าใจง่ายกว่า เพราะถึงไม่ได้ฟัง แต่ถ้าเห็นก็น่าจะลงถูก เราลองอ้างอิงจากคุณยามาดะที่เขียนให้ทุกคนอ่าน เลยลองแก้คร่าว ๆ ได้ประมาณนี้ค่ะ しばらく乗った後で、左に曲がってチュラーロンコーンの正門を通り、校内に入ります。右手に池を見ながら右にカーブし、直進して再度右カーブにさしかかるところが文学部のバス停です。


 หน้าตารถป๊อปเวอร์ชั่นปัจจุบัน
(出典:https://www.77kaoded.com/content/70678) 


     ส่วนจุดสุดท้ายที่ผิดคือมีปัญหาเรื่อง "ความไม่ชัดเจน" น่าจะเป็นปัญหาจากที่เราเคยชินกับการบอกทางตามความคุ้นชิน ซึ่งเราจะใช้ความเคยชินบอกทางกับคนที่เพิ่งมาครั้งแรกไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายที่ถามเราไม่รู้ว่าตึกไหนคือBRK แล้วตรงคณะอักษรศาสตร์มีทั้งตึก BRK กับ MCS ทั้งยังมีตึกของคณะศิลปกรรมศาสตร์อีก ถ้าไม่บอกให้ละเอียด คนญี่ปุ่นได้งงกับเรื่องตึกแน่ ๆ ค่ะ แล้วพออ่านของคุณยามาดะที่มีบอก "จุดสังเกต" กับ "ลักษณะตึก" ก็รู้สึกว่าเออ เข้าใจง่ายขึ้นจริง ๆ โดยเฉพาะอันหลังที่รู้สึกเจ็บใจว่าตอนแรกมีพิมพ์ไปแล้ว แต่คิดว่าเยอะไปเลยตัดทิ้ง กลายเป็นว่าเราตัดสินใจพลาดค่ะ ฮือ เจ็บใจ TvT 

     จริงอยู่ว่าต้องบอกจุดสังเกต แต่จะบอกทุกอย่างไม่ได้ เราต้องเลือกบอกจุดเด่นจริง ๆ ซึ่งจุดที่ฟังฟีดแบคในห้องแล้วรู้สึกว่าควรใส่เป็นจุดสังเกตคือ "เทวาลัย"



 (ภาพจาก:https://www.gamingdose.com/news/)


    ไม่ว่าจะคนไทยหรือคนญี่ปุ่นน่าจะ 共感力 ได้ แล้วทุกคนต้องสะดุดตากับเทวาลัยแน่นอน เพราะเทวาลัยใหญ่มากค่ะ 

    หลังจากที่วิเคราะห์เสร็จสรรพก็ลองแก้มาอีกรอบได้ประมาณนี้ค่ะ 



=+=+=+=+=+=+=+=
チュラ大のBRKへの行き方

まず、BTS Chong Nonsi(チョンナンシ)のホームに入って、「National Stadium」行きの電車に乗りましょう。Chong Nonsi、Sala Daeng(サラダーン)、Ratchadamri(ラーチャダムリ)Siam(サイアム)の順に各駅に停まるので、三つ目のSiam駅で下車してください。
次に、2番出口を出て、左方向を見ると、左手に「Center point」というデパートの2階入り口につながるところに出ます。そばに下への階段がありますから、降りてください。ここで注意して欲しいのが、そのまま直進せずに、Uターンすることです。そうしたら、Innisfreeという化粧品を売っている店を左手に見ながら、Watsonというドラックストアの方へ歩いていきましょう。
 少し歩いたら、左には空きとなっている映画館があります。その映画館の前で、大学生や会社員などが並んでいる行列があります。その行列に並んで、「1 Sala Phra Kieo」と書いてあるピンクのチュラーロンコーン大学の小型シャトルバスが来たら、大学生たちと一緒に乗りましょう。
 しばらく乗った後で、左に曲がってチュラーロンコーンの正門を通り、校内に入ります。直進して右カーブにさしかかるところが文学部のバス停です。ここで降りましょう。
  バス停の後ろに、中央部に穴が空いた形で、入口の屋根が三角形をしている校舎が見えます。上部にはタイ語で 「บรมราชกุมารี 」という表記があります。その校舎が、BRKです。また、向かい側にはタイ風のお寺のような低い建物があります。

=+=+=+=+=+=+=+=
     ก็มีอ้างอิงของคุณยามาดะพอสมควร แต่ก็รู้สึกว่า เออ พอเขียนแบบนี้แล้วดูเข้าใจขึ้นมากเลยค่ะ/กราบไหว้งานที่คุณยามาดะเขียน

   ถ้าให้สรุปสิ่งที่ได้จากการทำタスク3ก็จะได้ประมาณว่า

    *1. ระวังโครงสร้างประโยค ว่าถ้าเกริ่นด้วยคำนามก็ต้องจบด้วยคำนาม (สำหรับเราอันนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ กลัวจะเป็น化石化ที่แก้ไม่ได้ TvT)

    2. การใช้คำ ต้องระวังเรื่องความหมายที่อยากจะสื่อ อาจจะไม่ตรงกับความหมายของคำที่เลือกมาใช้

    3. ข้อมูลที่บอกอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป จริงอยู่ที่โดยพื้นฐานอาจจะเป็นอย่างที่เราบอก แต่ไม่ได้เป็นแบบนั้น "เสมอ" เพราะฉะนั้นเราควรจะระวังเรื่องข้อมูลให้มาก ควรจะบอกข้อมูลแบบไหนที่อีกฝ่ายต้องเจอแน่ ๆ

    4. ความไม่ชัดเจน ยิ่งอีกฝ่ายไม่เคยไป เราต้องบอกให้ละเอียด ยิ่งอธิบายให้เห็นภาพได้ยิ่งดีเพื่อให้อีกฝ่ายไม่งง

    5. ย่อหน้า ประเด็นนี้อาจจะไม่ได้พูดตอนวิเคราะห์เพราะว่าเรามีแก้ไปตั้งแต่แรก ๆ แล้วค่ะ แต่ถ้าให้เล่าอธิบายอย่างรวบรัดคือตอนแรกสุดเราไม่ได้ย่อหน้าเลยค่ะ แล้วรู้สึกว่าไม่อยากอ่านเลย ดูลายตาด้วย การมีย่อหน้าจะช่วยให้การบอกทางที่เราเขียนอ่านง่ายขึ้นมากเลยค่ะ!

    สำหรับเรา ระหว่างทำタスクนี้ ถ้าให้นิยามด้วยรูปรูปหนึ่งคงเป็นรูปนี้ค่ะ





   ไม่ใช่สะดุดล้มระหว่างพิมพ์แต่อย่างใด แต่รู้สึกว่ายากจนสะดุดล้มไปหลายรอบ ทุกครั้งที่มานั่งแก้ก็จะยิ่งรู้สึกว่าทำไมการบอกทางมันยากจังเลย 5555555555555/ในเลขห้ามีน้ำตาที่ไหลอย่างจริงจัง

   แต่ถ้าถามก็รู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้ฝึก ว่าเราควรจะเขียนยังไงให้อีกฝ่ายสามารถเดินทางไปได้จริง ไม่ใช่แค่เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น ไม่ว่าจะภาษาไทยหรือภาษาอื่น ๆ ก็สามารถนำไปประยุกต์ตอนใช้บอกทางได้ด้วย 

   ส่วนในแง่ของการใช้ภาษาคือจะเห็นได้ชัดเลยว่าเราพลาดการใช้ภาษายังไง การเลือกใช้คำยังดูใช้คำง่ายไปมั้ย หลากคำหรือเปล่า โครงสร้างประโยค ฯลฯ

   หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังจะเขียนบอกทางให้คนรู้จักนะคะ วันนี้ขอลาไปก่อน ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ!  

7 ความคิดเห็น:

  1. สรุปได้ดีมาก มีการนำเรื่อง 化石化 ที่เรียนในห้องมาใช้อธิบายเรื่องของตนเอง(ดีมาก นี่คือการนำความรู้ภาษาศาสตร์มาประยุกต์เพื่อแก้ปัญหาอย่างแท้จริง) แต่กรณีหนูยังไม่เป็น 化石化 หรอกค่ะ ยังแก้ได้ และสมมุติว่าถึงแม้ว่าจะเป็นแล้วก็ตาม การมี 意識(เช่น การเขียนใน blog ออกมาแบบนี้ก็เป็นการตอกย้ำ 意識 ของตน) ว่าจะไม่ทำอีก เรามีแนวโน้มแบบนี้ ต้องระวัง ...意識 เหล่านี้จะช่วยทำให้หายหรือหลุดพ้นจาก 化石化 ได้แน่นอนค่า

    ตอบลบ
  2. Macte virtute!
    หมูดุดชอบที่พี่มายด์ใส่สีตรงที่ผิดไว้ในแต่ละส่วนมากเลยฮะ ทำให้เห็นประเด็นที่ต้องแก้ได้ชัดเจน เข้าใจง่ายดี + สรุปตอนท้ายได้ดีครอบคลุมมากเลยฮะ

    คหสต. เวอร์ชั่นที่ยังไม่แก้หมูดุดก็ว่าดีอยู่แล้วนะฮะ สังเกตจากการที่มีที่ผิดน้อยมากเลย ยอมแล้วว
    แต่อันที่แก้ใหม่แล้วท่อนล่างที่อธิบายเรื่องเทวาลัยทำให้เห็นภาพขึ้นกว่าเดิมได้มากเลยฮะ ฉุดยอดด

    แอบตกใจรูปโรงหนังร้างนิดหน่อย มันน่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ 5555555

    แล้วไว้จะแวะมาให้กำลังใจใหม่นะค้าบบ **SeeYou**( ̄∀ ̄*)ノ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เวอร์ชั่นที่ยังไม่แก้นั่นคือแก้มาแล้วหนนึง รอบแรกสุดคือผิดเยอะอยู่นะ 555

      ส่วนรูปโรงหนัง ตอนแรกที่เปิดมาคือพี่ก็ตกใจมากจริงจัง 555555 ตอนแรกพี่อิมเมจว่าก็แค่โรงหนังปิดตัวลงเฉย แต่廃墟จะใช้ในเชิงว่าสภาพโดยรวมพังพินาศ ฝุ่นเกาะไม่ก็ราขึ้นไรงี้ บอกเลยว่ากลัวมาก(...)

      ลบ
  3. ชอบการนำทฤษฎีมาอธิบายสาเหตุความผิดพลาดของตัวเองมากค่ะ รู้สึกว่า เรียนไปแล้วได้เอาไปทบทวนตัวเองจริง ๆ ส่วนรูปโรงหนังอันนั้นน่ากลัวมาก แง เหมือน trauma ภาพโรงหนังสยามตอนไฟไหม้เล็ก ๆ
    แล้วก็เรื่องมีแถวหน้าลิโด้อะค่ะ คิดว่าอีกสิ่งนึงคือ...บางทีมันไม่มีคนต่อแถวแล้วต้องไปยืนต่อใหม่เอง อันนั้นแหละค่ะน่าจะปัญหา555555555

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เออ พี่ลืมนึกถึงประเด็นนั่นไปเลย!! ถ้ามีประเด็นนั่นด้วย คงต้องเขียนเตือนระวังเรื่องแถวเพิ่ม

      ลบ
  4. สรุปได้ดีมากเลย เขียนได้ละเอียดด้วย มีการเอาเรื่อง 化石化 ที่เรียนในห้องเรียนมาอธิบายความผิดพลาดของตัวเองด้วย มีการใช้สีตัวอักษณแยกเป็นประเด็นว่าควรระวังจุดไหนบ้าง เรื่องการเขียนบล็อค เราอ่านแล้วเหมือนเรากำลังคุยกับมายด์อยู่เลย ไหลลื่นดี มายด์ดูน่าจะชอบเขียนไดอารี่^^ เราชอบที่มายด์แบ่งย่อหน้าตามประเด็น มันทำให้อ่านง่าย แล้วมายด์มีการใส่รูปด้วย เออ ทำให้บล็อคดูมีสีสัน ไม่น่าเบื่อ สุดท้าย มีการสรุปประเด็นสำคัญที่ควรระวัง เยี่ยมคับบ ^^

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เมื่อก่อนเคยเขียนไดอารี่นะ แต่ไม่เป็นระเบียบ 555 แต่เราติดนิสัยเขียนเหมือนคุยกับคนอื่นก็ตอนเขียนไดอารี่เนี่ยแหละ รู้สึกว่าพอกลับมาอ่านใหม่ มันอ่านเพลินมากกว่าแบบบันทึกจริงจัง

      ลบ