วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Week2:魅力的な自己紹介ってどんな感じ?

     สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้เราก็ยังคงวนเวียนอยู่ในเรื่องแนะนำตัวเองอยู่เช่นเคยค่ะ 555 แต่เพิ่มเติมว่าจะแนะนำตัวเองยังไงให้ดู 「魅力」 ถ้าพูดเป็นภาษาไทยก็คงเป็นแนะนำตัวยังไงให้ “มีเสน่ห์” หรือ “น่าดึงดูดใจ”
 
     บล็อกที่แล้วจะเน้นการแนะนำตัวแบบพูดยังไงให้เนื้อหาต่อกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าถึงจะพูดได้ไหลลื่นก็ไม่ได้ช่วยให้คนอื่นจำเราได้จากการแนะนำตัวเลยค่ะ(...)

     อาจารย์ก็เลยให้ลองเขียนแนะนำตัวเองอีกรอบค่ะ แต่ว่าให้เลือกสถานการณ์ว่าจะเอาไปใช้ที่ 合コン(นัดบอด) หรือ就職活動(หางาน) แล้วเขียนแนะนำตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เลือกค่ะ

     เราเลือก 就職活動 ค่ะ เพราะนึกสภาพตัวเองไป就職活動ออกมากกว่า合コン 5555 

     ก่อนเขียน อาจารย์ก็สอนเทคนิคว่าควรใส่ "Episode" หรือ "สภาพBefore&After" ลงไปด้วย ก็จะช่วยทำให้คนอื่นประทับใจและจดจำเราได้มากขึ้นค่ะ!   

     นอกจากนี้ อาจารย์ก็มีแนะนำเรื่องแกรมม่าญี่ปุ่นด้วยค่ะ โดยปกติเราจะบอกแค่ว่า …ができます。ซึ่งหลาย ๆ คนฟังก็จะรู้สึกว่า "แล้วไงต่อหรอ?" แน่ ๆ อาจารย์ก็เลยแนะว่าลองเขียนว่าได้เรียนรู้หรือจดจำอะไรได้จากเหตุการณ์ที่เรายกขึ้นมาจะดีกว่า เช่น を覚えました。を知りました。

     พอฟังเทคนิคต่าง ๆ ดูแล้วก็ได้ลองใช้เทคนิคตามที่อาจารย์สอนดูค่ะ ที่เขียนส่งอาจารย์ไปก็ตามข้างล่างนี้เลยค่ะ


=+=+=+=+=+=+=+=

 私はどちらかと言うと、「努力家」だと思います。小さい頃から周りの人に音楽の才能がないとよく言われていましたが、小学4年生のとき、吹奏楽団に入り、ユーフォニアムという金管楽器を担当させました。吹奏楽団に入ったみんなが、顧問先生に楽器の吹き方を教えてもらったんですが、同期に入ったメンバーほどなかなか上手く吹けない私はとてもプレッシャーを感じ、たまに一人でこっそり泣いたりしました。しかし、どんなに泣いても、上手く吹けるようになるわけではないので、「練習するしかない!」と思い、暇な時間があったら一人で練習したり、他のメンバーに一緒に練習してもらったりしました。練習し続けた結果、顧問先生に褒められほど上手く吹けるようになりました。音楽の才能がないと言われても、上手く吹けるようになりたいという目的を達成するために、努力を惜しまないことの大切さを知りました。このことは社会人になっても活かして生きたいです。

=+=+=+=+=+=+=+=


     ที่เราเปลี่ยนสีกับไฮไลท์คือจุดที่อาจารย์คอมเมนท์ว่าควรแก้ค่ะ อาจารย์บอกว่าลองให้ไปนั่งนึกดูก่อนว่าควรแก้ยังไง

     ถ้าดูตรงที่เราเปลี่ยนเป็นสีเขียวก็ทำให้เราค้นพบว่า.........
     .....
     ...
     .

     เราลืมนึกถึงความเป็น書き言葉(ภาษาเขียน)อย่างเต็ม ๆ เลยค่ะ!!!!!

 (ตอนที่นึกได้คือช็อกมาก สภาพเหมือนน้องหมีด้านบนเลยค่ะ ฮืออออ)


     ตอนที่เขียนแนะนำตัวรอบนี้ เราดันไปยึดหลักความคิดหนึ่งว่า  "เออ เราต้องเอาไปพูดนะ บางจุดเขียนเป็นภาษาพูดก็ได้แหละ" แต่ลืมไปเลยว่า สถานการณ์ที่เราเลือกคือ 「就職活動」 ซึ่งถ้านึกถึงหลัก"TPO" คือผิดหลักเต็ม ๆ เลยค่ะ

     ถ้านึกถึงสถานการณ์เวลาสมัครงานที่ต้องมีความทางการ+สุภาพ เพราะฉะนั้นเราจะใช้ภาษาพูดกับภาษาเขียนผสมกันไม่ได้ ต้องเป็นภาษาเขียนไปเลย เพราะฉะนั้นความผิดพลาดในครั้งนี้ทำให้เราตระหนักได้ว่า เราควรระวังเรื่องการใช้ภาษาพูดปนกับภาษาเขียนให้มาก ๆๆๆ TvT

     ส่วนตรงที่เราทำสีแดงไว้คือ เราลืมนึกถึง.........

「視点」 

     ยอมรับว่าจุดนี้สะเพร่าเองที่ลืมนึกว่าประธานของประโยคคือใครเลยผันตามความเคยชินเป็นさせた แล้วส่งอาจารย์โดยไม่เช็คให้ละเอียดว่าที่ผันมันไม่ตรงกับประธานของประโยค(...)

     ประเด็นนี้จะชวนให้นึกถึงเรื่อง 受身 ที่เรียนในคาบที่ผ่านมาเลยค่ะ ว่า受身ช่วยรักษา 視点 กับ ความ客観的 ของประโยคที่ใช้ ซึ่งส่วนตัวว่าไม่ว่าจะ 使役 หรือ 使役受身 ก็ช่วยรักษา視点ให้เข้าใจง่ายเหมือนกัน เพราะผันผิดที มุมมองที่เล่าเรื่องเปลี่ยนไปมาก ทำคนอ่านหรือคนฟังงงแน่ ๆ ค่ะ 

     อย่างกรณีของเราคือ ถ้าคนญี่ปุ่นมาคนอ่านคงงงแน่ ๆ เลยว่า... 

"อ้าว ไม่ได้พูดถึงตัวเองหรอ?" 
...
..
.


     ส่วนตรงที่เราทำสีชมพูไว้ เราจะไม่พูดอะไรมาก เพราะอันนี้รู้ตัวว่าผันผิดแต่ลืมกลับมาแก้ (รอบนี้โชว์ความสะเพร่ารัวๆ )
 
     ตอนนี้จะขอมาพูดในส่วนสุดท้ายที่เราไฮไลท์สีส้มไว้ค่ะ ที่เราไฮไลท์เพราะว่า...

อาจารย์ชมว่าเขียนดีมากล่ะค่ะ!!! 


     แต่ ๆๆๆๆๆ อาจารย์ก็มีคอมเม้นท์มาว่าเราควรเสริมอีกนิดนึงเพื่อให้เข้าใจง่ายค่ะ นั่นก็คือตรง目的を達成するために、努力を惜しまないこと อาจารย์ก็แนะนำว่าควรเพิ่ม 練習することで ด้านหลังためにเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นว่า "จากการฝึกฝน....ทำให้..." ซึ่งส่วนตัวก็เห็นด้วยกับอาจารย์ค่ะ เพราะตอนที่เขียนก็รู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมรู้สึกขาด ๆ คนอ่านจะงงมั้ยนะ? มาอ่านคอมเม้นท์อาจารย์ทีถึงกับบางอ้อเลยค่ะ 5555555

     เพราะฉะนั้นถ้าลองแก้ตามที่อาจารย์คอมเม้นท์มาก็จะได้ตามนี้ค่ะ


=+=+=+=+=+=+=+=

 私はどちらかと言うと、「努力家」だと思います。小さい頃から周りの人に音楽の才能がないとよく言われていましたが、小学4年生のとき、吹奏楽団に入り、ユーフォニアムという金管楽器を担当させられました。吹奏楽団に入ったみんなが、顧問先生に楽器の吹き方を教えてもらいましたですが、同期に入ったメンバーほどなかなか上手く吹けない私はとてもプレッシャーを感じ、たまに一人でこっそり泣いたりしました。しかし、どんなに泣いても、上手く吹けるようになるわけではないので、「練習するしかない!」と思い、暇な時間があれば一人で練習したり、他のメンバーに一緒に練習してもらったりしました。練習し続けた結果、顧問先生に褒められほど上手く吹けるようになりました。音楽の才能がないと言われても、上手く吹けるようになりたいという目的を達成するために練習することで、努力を惜しまないことの大切さを知りました。このことは社会人になっても活かして生きたいです。

=+=+=+=+=+=+=+=


     พอแก้แล้วรู้สึกว่า การแนะนำตัวที่เราเขียนดูเป็นทางการ+คนญี่ปุ่นน่าจะเข้าใจขึ้นมากเลยค่ะ 5555 ก็ถ้าให้สรุปสิ่งที่ได้จากการเขียนแนะนำตัวรอบนี้คือ

     1. การใส่ "Episode" หรือ "สภาพBefore&After" ช่วยให้การแนะนำตัวของเราดูมีอิมแพคมากขึ้น 

     2.  การใช้を覚えました。หรือを知りました。เป็นการบอกผลลัพธ์ว่าเราได้จดจำหรือเรียนรู้อะไรจากเรื่องราวที่ยกขึ้นมา ส่วนตัวจะรู้สึกว่าเหมือนเป็นまとめสิ่งที่เราอยากจะสื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ง่าย ๆ ในหนึ่งประโยคเลยค่ะ

     *3. เวลาแนะนำตัวควรใช้ 書き言葉 เพื่อความสุภาพ(สำหรับเรา ข้อนี้ถือว่าเรื่องที่ต้องระวังมาก ๆ เลยค่ะ ฮือ T_T)

     4. ระวังสับสน視点ที่ใช้เล่าเรื่อง กันคนอ่านงง(รวมถึงตัวคนเขียนเองด้วย)


      บอกเลยว่าทั้งชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าการแนะนำตัวจะเป็นอะไรที่ยากขนาดนี้มาก่อน 555555 แต่พอมาทำกิจกรรมก็ยิ่งรู้สึกว่า


"อะไรที่คิดว่าง่าย มันไม่ง่ายอย่างที่คิดและควรใส่ใจมากกว่านี้"

    หวังว่าสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากอาจารย์และปัญหาที่เจอจากการลองทำกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่แวะเวียนเข้ามานะคะ

    สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน ไว้เจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ :) 

3 ความคิดเห็น:

  1. โอ้โห เขียนความแตกต่างก่อนและหลัง(ได้คอมเมนต์) และกระบวนการพัฒนาของตนเองได้อย่างละเอียดเลยค่ะ

    ตอบลบ
  2. 惜しまない เราจะลอกคำนี้ไปใช้บ้าง

    ตอบลบ
  3. ชอบการชี้จุดที่บกพร่องของพี่มากเลยค่ะ อธิบายได้เข้าใจง่ายและรู้ว่าตัวเองผิดตรงไหน ส่วนสตอรี่ก็ชอบตรงที่ เออ ร้องไห้ไปก็ไม่ได้อะไรเนอะ สู้ดีกว่า

    ตอบลบ