ก่อนอื่นเลย จากผลโหวตในห้อง งาน空想作文เราได้ที่1ล่ะค่ะ!! บอกตามตรงว่าเกินคาดมาก ๆ เพราะตอนเรื่องผีมีคนโหวตให้เราคนเดียว แต่พอมางานนี้คือคนโหวตให้อันดับสูงหลายคนมาก ๆ รู้สึกดีใจที่เรื่องที่เขียนไปได้ฟีดแบคค่อนข้างดีค่ะ สัมผัสได้ถึงพัฒนาการตัวเอง ฮือ ;-;
ตอนรู้ผลคือแทบจะกระโดดโลดเต้นรอบบ้าน 5555
เอาล่ะ เข้าเรื่องกันเถอะค่ะ จุดประสงค์ในการอัพครั้งนี้คือสรุปภาพรวมทั้งเทอมว่า จากที่ตั้งเป้าในบล็อกแรกสุดจนมาถึงตอนนี้ ได้ตามเป้ามั้ย และพูดสัพเพเหระอื่น ๆ(?)ค่ะ
จริง ๆ จุดประสงค์หลักของเราในการเขียนบล็อกคือ "ตัวเองพลาดยังไง และควรแก้ไขยังไงเพื่อให้ภาษาญี่ปุ่นดีขึ้น" หรือ 「内省」ซึ่งถ้าดูตามบทความที่ขึ้นต้นด้วย Week ก็รู้สึกว่าตัวเองรู้ตัวมากขึ้นค่ะว่าพลาดยังไง มีสรุปลิสต์เป็นข้อ ๆ สิ่งที่ได้เรียนรู้และข้อควรระวังในการใช้ภาษาญี่ปุ่น ทำให้การใช้ภาษาญี่ปุ่นเราดีขึ้นเรื่อย ๆ (ไม่มากก็น้อยละนะ) เช่น ตอนリアリティーのない作文ที่แต่งเรื่องผี ตอนเขียนเรื่องนี้คือจบไม่ดีเลย ตัดส่วนที่ต้องเขียนไปก็เยอะ แล้วเนื้อเรื่องก็อะไรก็ไม่รู้ 5555555/น้ำตา
หลังจากเรียนรู้จากข้อผิดพลาด พอแก้แบบละเอียดแบบอธิบายละเอียดขึ้น+ผูกปมให้ทุกอย่างเชื่อมกัน+แก้วิธีจบก็รู้สึกว่าเรื่องผีที่ตัวเองคือดูสยองขวัญกว่าเดิมมาก 5555 พองานเขียน空想作文ก็นำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากตอนแต่งเรื่องผีมาระวังตอนที่เขียน空想作文 ที่ค่อนข้างชัดเจนคือเราผูกเนื้อเรื่องละเอียด+เซตติ้งให้ละเอียดที่สุด เพื่อให้ทุกอย่าง目に浮かぶได้จริง ๆ ซึ่งบอกตามตรงว่าเมื่อก่อนไม่คิดว่าตัวเองทำได้เลยยย แต่พอมาเรียนวิชานี้ได้ลองทำก็รู้สึกว่า
"ไม่มีทางรู้เลยว่าตัวเองทำได้หรือไม่ได้ นอกจากจะได้ลองลงมือทำ"
แน่นอนว่าโอกาสที่ได้ลองทำแล้วมีคนช่วยตรวจให้ไม่ได้มีเยอะ+ให้โอกาสตัวเองมา内省ด้วยการเขียนบล็อก(ซึ่งเป็นการoutputที่ชอบมากเถอะ ให้ตายสิ 555) เลยรู้สึกดีมากกกกที่ลงวิชานี้ตอนเทอมสุดท้ายในชีวิตมหาลัย
มีอยู่ 2 อย่างที่ได้จากวิชานี้คือ empathy กับ Active Learner เพราะตั้งแต่ที่เรียนวิชานี้ รู้สึกว่าตัวเองพอจะทำอะไรคือนั่งคิดเยอะมากขึ้นว่า ถ้าสื่อออกไปอีกฝ่ายจะเข้าใจมั้ย นึกถึงจุดยืนอีกฝ่ายมากขึ้นจริง ๆ ค่ะ ไหนจะขยันเรียนรู้ด้วยตัวเองเยอะมากเพื่อพัฒนาตัวเองที่พักหลังหมดไฟเรื่องเรียนไประดับนึง ก็พูดได้เต็มปากว่าพอเรียนวิชานี้ทีความอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นคือกลับมาเยอะมาก ๆ เลยค่ะ
คลาสนี้สอนแบบTBLT ซึ่งบอกตามตรงว่าเป็นอะไรที่เรากลัวมากค่ะ เพราะตอนปี3เราトラウマเรื่องเรียนหนักมากจนไม่กล้าเขียนหรือพูดภาษาญี่ปุ่นเสียเท่าไหร่(ถึงกลับจากแลกเปลี่ยนมา แต่ก็ยังเป็นอยู่ค่ะ ฮือ) แต่คาบนี้ช่วยทำให้เรากล้ากลับมาใช้อีกครั้ง ถึงจะผิดบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเครียดเท่าตอนปี3 บอกเลยว่ารักタスク 目に浮かぶ描写กับ空想作文 เพราะเป็นタスクที่พิสูจน์ตัวเองว่าเรายังพอเล่าเรื่อง+เขียนบรรยายละเอียดจนเห็นภาพได้จริง ๆ ค่ะ ถือว่าเป็นอีกก้าวที่ดีสำหรับเรา
นอกจากนี้ รู้สึกว่าวิชานี้ให้อะไรเราเยอะจนนับแทบไม่ถ้วนค่ะ มิตรภาพระหว่างเพื่อน ๆ น้อง ๆ ในห้อง การเรียนที่สนุกสนานตลบอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะ ทำให้วันจันทร์ที่เราไม่อยากตื่นมาเรียนเพราะคาบช่วงเช้าเจออาจารย์ไม่ดี ก็ทำให้เราเข็นตัวออกมาเรียนเพราะอยากมาเรียนวิชานี้ค่ะ กล้าพูดเลยค่ะว่าเป็นวิชาที่ชอบที่สุดตั้งแต่เข้าเอกญี่ปุ่นมา และเป็นคาบที่เอนจอยสุด 癒しสุดสำหรับเทอมนี้ค่ะ 555(หัวเราะแก้เขิน)
บอกตามตรงว่าเดิมทีเคยจะลงตั้งแต่ตอนปี3แล้วค่ะ แต่ว่าตอนนั้นคืองอแง ไม่อยากเขียนบล็อก+เห็นพวกปี5รุ่นนั้นที่ต้องเรียนด้วยคือกลัวมากเลยลดวิชานี้ไปแบบไม่คิดตั้งแต่วันแรกที่ลองเข้าไปเรียน(กราบไหว้อาจารย์หนึ่งครั้ง)
แต่ว่าหลังจากกลับแลกเปลี่ยน เรารู้ตัวว่าอยากเป็นครูค่ะ เพื่อนสนิทเราก็แนะนำมากว่าต้องเรียนวิชานี้ เพื่อนสนิทเราก็บอกว่าน่าจะเหมาะกับเราที่อยากเป็นครู ซึ่งตามคาดจริง ๆ เพราะเราก็ได้ลองเอาไปประยุกต์ใช้กับน้องที่สอนดู ช่วยได้เยอะมาก ๆๆๆ ไม่ว่าจะทั้ง i+1 TPR และอื่น ๆ ซึ่งบอกเลยว่าเมื่อก่อนไม่เคยคิดเลยว่าพวกทฤษฎีไรงี้จะสามารถนำประยุกต์ได้จนมาเรียนวิชานี้ รู้สึกว่าเป็นวิชาเปิดโลกให้เราเรื่องด้านการสอนภาษาญี่ปุ่นมากจริง ๆ ค่ะ แล้วทำให้เราแน่วแน่กับเส้นทางในอนาคตแล้วว่าอยากต่อปริญญาโทด้านภาษาศาสตร์ประยุกต์ (สเตตัสปัจจุบัน:กำลังหาหัวข้อวิจัยไปด้วย ทำฟรีแลนซ์สอนหนังสือไปด้วยเพื่อดูปัญหาว่าคนไทยมีปัญหาอะไรตอนเรียนภาษาญี่ปุ่น)
จริง ๆ อีกอย่างที่ชอบตอนเรียนคือเรื่อง 言語現象 คือไม่เคยพูดถึงในนี้ แต่รู้สึกว่าพออาจารย์สอนแล้วเราเอาไปตกตะกอนใช้ตอนทำタスクในแต่ละวีคแล้วเลยไม่เคยพูดถึงเลย ก็...ตั้งใจว่าจะนำมาเขียนลงบล็อกนะคะ แต่!! เราจะไม่ได้อัพในนี้ค่ะ เพราะเราจะย้ายไปอัพบล็อกที่
เนื่องจากว่าตอนอัพทางนี้ พบปัญหาในการอัพแต่ละครั้งเยอะมากกกก เลยตัดสินใจเปิดบล็อกใหม่ไปเลยค่ะ อาจจะไม่ได้อัพถี่เหมือนบล็อกนี้ เพราะว่าเราก็ทำงานแล้วด้วย อาจจะอัพเดือนนึงหนนึงค่ะ (ตอนนี้ก็จะโล่ง ๆ หน่อยเพราะเพิ่งเปิด)
บอกได้เลยเป็นวิชาที่เรียนจบแล้วอารมณ์ไม่จบที่แท้ทรูค่ะ ถึงขั้นตั้งใจจะเขียนบล็อกต่อได้ เพราะตอนเรียนก่อนจะเรียนคือคิดว่าไม่เขียนต่อแน่ ๆ เปล่าเลย เขียนติดลมมาก 5555
.....
...
.
อาจจะไม่ได้สวยมาก+ไม่เหมือนอาจารย์ด้วยเพราะรีบวาดรีบลง แต่หวังว่าอาจารย์จะชอบนะคะ ;-; (ใจจริงอยากวาดทุก ๆ คนที่เรียนด้วยกันในคลาสลงไปด้วย แต่เวลาไม่เอื้อเลยไม่ได้วาด/กราบไหว้ทุกคน)
ขอบคุณคาบAPP JP LING ที่ทำให้เรากลับมากล้าใช้ภาษาญี่ปุ่นได้ขนาดนี้จริง ๆ ค่ะ รู้สึกดีมาก ๆ ที่เทอมสุดท้ายในรั้วมหาลัยได้มาเรียนวิชาดี ๆ แบบนี้
พูดมาซะยาวเลย สุดท้ายนี้ขอลาไปโดยประโยคสั้น ๆ ละกันค่ะ...
「ありがとう、そして、これからも」
Maido
2019/05/16
วาดสวยมาก !!
ตอบลบจริงๆ แล้วแอบมาอ่านบล็อกพี่มายด์อยู่ตลอด แต่ในหลายครั้งก็ลืมเม้น หรือบางครั้งก็ไม่รู้เป็นอะไรมันถึงเม้นไม่ติดแงงงง แต่ต้องขอบคุณบล็อกพี่มายด์จริงๆ รู้สึกว่าเป็นบล็อกที่อ่านแล้วได้เรียนรู้ตลอดเวลาเลยค่ะ เย้
นั่นแหละ อีกสาเหตุที่ทำให้พี่ย้ายบล็อก เม้นไม่ติด 555
ลบว้าว ประทับใจตรงรูป(สวยกว่าตัวจริง)ของครูนี่แหละ555 แถมมีรายละเอียด apple watch ด้วย สุดยอดเลย ขอบคุณมากๆๆเลยค่ะ ดีใจมากที่ทำให้หนูชอบภาษาญี่ปุ่นขึ้นมาได้ และดีใจที่ได้ยินว่าจะเขียนบล็อกต่อใน maidosensei! นานๆจะขอเข้าไปแอบอ่านนะคะ เรื่อง 言語現象 ดูเหมือนคนไม่ค่อยสรุปลงบล็อก ครูอาจจะต้องปรับปรุงการสอนนิดหนึ่งแต่ดีใจที่ทำให้สนใจปรากฎการณ์ภาษาศาสตร์ได้ เย้ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งเช่นกันค่ะ お疲れさまでした!
ตอบลบไม่ค่ะ อาจารย์สวยกว่ารูปที่หนูวาดเยอะะะะ
ลบหนูว่าที่หลาย ๆ คนไม่พูดถึงเรื่อง言語現象อาจจะเป็นเพราะหลายคนมองว่ามีเรื่องทฤษฎีเป็นเมนของวิชานี้ส่วน言語現象เป็นเรื่องรองรึเปล่าคะ? หลาย ๆ คนเลยไปโฟกัสเรื่องทฤษฎีมากกว่า
ดีใจที่ได้มาเรียนกับมายด์ เป็นคู่หูคู่เรียนของเทอมนี้เลย แถมมาเม้นให้เราบ่อยมาก (บ่อยยิ่งกว่าตูอัพอีก 5555) ดีใจที่มายด์ได้พบเส้นทางอนาคต หวังว่าจะได้เห็นครูมายด์ในอนาคตนะคะ อิอิ โห มีบล็อกใหม่เหรอ ต้องติดตามเข้าไปอ่านบ้างแล้ว อัพเมื่อไหร่บอกนะเพื่อน จะติดตามฮับ //นั่นรูปไม่สวยเหร เราวาดไม้ stick 5555
ตอบลบพวกเราตัวติดกันแทบตลอดอ่ะ ตั้งแต่ที่เข้ามหาลัยยันเทอมสุดท้ายที่แท้ทรู 55555 ก็ขอบคุณที่มาเป็นคู่หูฉันนะะะะ ถ้ามีอัพบล็อกเมื่อไหร่ จะหลังไมค์ไปบอกแน่นอน อิอิ
ลบ